25/9/51

E WEB CARD ใช้จ่ายในเน็ต ได้แล้ว

www.pikpod.com

        หลังจากเมื่อวาน ได้เขียนเรื่อง การสมัคร k-cyber banking ไปเรียบร้อยแล้ว และสมัคร e web card เรียบร้อย แค่รอให้เขาส่งเมลมายืนยันว่า ใช้งานได้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 วัน และก็ได้รับเมลตอบกลับเป็นที่เรียบร้อย คราวนี้จะแสดงให้เพื่อนๆเห็นว่า เราสามารถใช้ตัวเลขไหน ในการใช้แทน บัตรเครดิต ได้บ้าง รวมถึงเลข 3 ตัว ที่มีมาบนบัตรเครดิตอีกด้วย



1. อันดับแรก ให้เข้าไปที่ http://www.kasikornbank.com ก่อน เพื่อเข้าหน้าของธนาคาร

2. ให้เลือกไปที่หมวด บริการออนไลน์ จะมีกรอบหน้าต่างขึ้นมา









3. ให้ใส่ username และ password ลงไป ซึ่งเป็น username และ password ที่เราเปลี่ยนไปเมื่อวานนี้







4. ให้ คลิ๊ก ไปที่ k-web shopping card







5. เลือกไปที่ ดูรายละเอียดของบัตร 







6. ให้เลือกเลขที่บัตร ซึ่งบางคนอาจมีหลายเลขก็ได้ เผื่อเอาไว้ทำการตลาดแบบ pay per click หรือ ซื้อของหลายที่ ก็อาจกระจายเงินไปหลายบัตรก็ได้ เหมือนบางคนมีบัตรเครดิตหลายใบ รายละเอียดที่เราเอาไว้ใช้แทนบัตรเครดิต ก็มีดังนี้



- เลขที่บัตร

- ชื่อย่อบัตร

- ตัวเลข 3 ตัว CVV ก็คือตัวเลขอันเดียวกับที่อยู่บนบัตรเครดิต

- วันหมดอายุ







เพียงเท่านี้ เราก็สามารถที่จะ shopping ในโลกไซเบอร์ได้แล้ว โดยที่เราไม่จำเป็นต้องมีบัตรเครดิตด้วย หรือเราอาจทำการตลาดกับ google awords ก็สามารถใช้ e web card นี้ จ่ายเงินให้กับ google ก็ได้ หรืออาจซื้อของใน ebay หรือเอาไว้ สมัครสมาชิกกับ paypal ก็ยังได้

23/9/51

ที่มาของชื่อเว็บ PikPod (พิคพอด)

www.pikpod.com

คิดว่า หลายคนก็คงจะสงสัยว่า ชื่อเว็บ PikPod มีที่มาอย่างไร แปลว่า อะไร เป็นภาษาอะไร วันนี้จะมาบอกให้ฟังคับ

เริ่มแรกที่จะทำเว็บนี้นั้น สิ่งที่ยากที่สุด สำหรับการทำเว็บก็คือ การได้ชื่อที่ดี ที่เรียกง่าย จำง่าย สะกดง่าย ไม่ยาวเกินไป ไม่มีขีดคั่น ไม่มีใครมีใกล้เคียง และที่สำคัญ ต้องเป็น .com ด้วย เชื่อหรือไม่ ผมคิดชื่อออกมาประมาณ 100 กว่าชื่อ แต่มีจดหมดแล้ว เพราะจดง่าย และเป็นภาษาอังกฤษ มันจดกันทั่วโลก บางคนก็จดไว้ก่อน แต่ยังไม่ใช้ บางคนก็จดแล้ว เอามาเก็งกำไรก็มี จะจดเป็นชื่อภาษาไทย ก็ไม่เอา เพราะเราเน้นเพลงสากล (เผื่อโกอินเตอร์กะเขาบ้าง) ก็เลยหาไม่ได้สักที จนเกือบจะหมดกำลังใจซะแล้ว ตอนแรกว่า จะไม่ทำละ

แต่มาเจอเว็บนึง เขียนถึงเรื่องชื่อเว็บของเว็บ 2.0 ที่นำคำมาผสมบ้าง มาลดตัวอักษรบ้าง ไม่ว่าจะเป็น del.icio.us, digg, flickr, youtube, imeem หรือแม้กระทั่ง google ที่ไม่มีความหมายอะไร ตอนแรก google จดผิดด้วยซ้ำ ตอนแรกจะจดว่า googel แต่ดันจดผิด สลับกันระหว่าง L กับ E กลายเป็นรวยไปเลย

ผมก็เลยไปเดินเล่น เวลาถ้าใครคิดอะไรไม่ออกนะ ให้ไปเดินเล่น มองอะไรที่อื่น อย่าอยู่กับที่ มันจะคิดไม่ออก ผมก็ไปเจอร้าน apple ในห้าง ซึ่ง ณ เวลานั้น เป็นเวลาของ ipod ฟีเวอร์ ไม่มีใครไม่รู้จัก มันเป็นเครื่องเล่น mp3 ที่มาถล่ม sony walkman โดยสิ้นเชิง ไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อว่า ไอพอด (แต่ไม่มีไม่เป็นไร เพราะผมก็ไม่มี) ก็เลยเกิดความคิดว่า น่าจะเกาะกระแสไอพอดได้นะ เพราะเราก็เปิดเพลงสากลเหมือนกัน แบบว่า ไอพอดเป็นเครื่องเล่น mp3 ส่วน pikpod ก็เป็นเว็บที่เล่นเพลงให้ฟัง เพราะเราไม่ใช่วิทยุ เราไม่มีดีเจ เราเป็นมากกว่านั้น ก็เลยมานั่งคิด แล้วเราจะเอาคำอะไรไปผสมกับ ipod ดี ก็เลยเอาชื่อเล่นตัวเอง คือ K แต่ถ้าเป็น kpod ก็ไม่ค่อยเพราะ kipod ก็ไม่เพราะอยู่ดี ก็เลยเอาคำว่า พี่เค ซึ่งก็คือ P' K มาผสมเข้าไป เป็น

P K + IPOD = PIKPOD


ปรากฏว่า ไม่มีใครจด วันนั้นเลยเลี้ยงฉลองใหญ่ ประหนึ่งว่า ได้รับโบนัสทั้งปี มันนับเป็นก้าวแรกของความสำเร็จเลยก็ว่าได้ แต่ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่า คนเห็นก็คงจะเรียกว่า พิคพอด แต่บังเอิญ มีน้องคนนึง เขาเห็นแล้วเรียกว่า ปิ๊คป๊อด ก็เลยคิดว่า ถ้าเป็น ปิ๊คป๊อด อีกหน่อยก็คงได้เปิดเพลงอีสานกันซะงั้น - -"

ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคับ
www.pikpod.com

        เมื่อวานก็เกริ่นเรื่อง การสมัครใช้งาน CJ และก็สมัครใช้งาน Blogger คราวนี้เราก็จะมาพูดถึงเรื่องการใช้จ่ายเงินในโลกอินเตอร์เน็ต อีกวิธีนึง ซึ่งหากเราไม่มี บัตรเครดิต ไม่ต้องกลัว เพราะวันนี้เรามีทางแก้แล้ว อีกอย่าง ยังปลอดภัยกว่าการใช้บัตรเครดิตอีกด้วย เพราะเราไม่จำเป็นต้องไปใส่รหัสบัตรเครดิต รับรองไม่ต้องกลัว hacker โขมยรหัสไปแน่นอน ซึ่งวิธีนั้นก็คือ การทำ e web card ของธนาคาร กสิกรไทย นั่นเอง มันเป็นการพัฒนามาจากระบบ paypal ซึ่งวันหลังผมจะมาอธิบายให้ฟัง ว่าคืออะไร แต่วันนี้เรามาดูวิธีนี้กันก่อน เพื่อที่เพื่อนๆ จะได้ทำการค้า หรือซื้อของในโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย



        อย่างแรกเลย จะต้องไปเปิดบัญชีออมทรัพย์กับทางธนาคารซะก่อน เปิดในนามบุคคลธรรมดาเท่านั้น และทำการสมัคร K-Cyber Banking ไปด้วยกันเลย ซึ่งพนักงาน ก็จะให้เรากรอกรายละเอียดต่างๆไป แต่ถ้าเราไม่ได้ใช้ บัตรเอทีเอ็ม ก็ไม่จำเป็นต้องทำ เพราะเราใช้ในโลกไซเบอร์เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ ATM เมื่อสมัครเสร็จแล้ว ก็ให้เรารอเมลตอบกลับมาของทางธนาคาร



1. ได้รับเมลตอบกลับมา บอกรหัสผ่าน (PIN1) ซึ่งจำเป็นต้องใช้เพื่อความปลอดภัยอีกขั้นนึง จากนั้นกดไปที่ link ที่ให้มาเลย







2. จะเข้ามาหน้าของธนาคาร ให้เราไปเลือกในช่องซ้ายให้เป็นคำว่า บริการออนไลน์ 







3. จะมีกรอบหน้าต่างขึ้นมา ให้เรากรอก รหัสผู้ใช้งาน ซึ่งก็คือ เลขที่บัญชีที่เราเปิด ส่วนรหัสก็คือ รหัส PIN1 นั่นเอง







4. รหัส PIN1 ในเมล







5. จากนั้น จะมาหน้าที่ให้เราอ่านเงื่อนไขต่างๆ ให้เรากดยอมรับ







6. จากนั้น ให้กรอกรายละเอียดต่างๆ โดยให้เราเปลี่ยน ชื่อและพาสเวิสด์ ได้เป็นของตนเอง หรือชื่อและรหัสที่เราจำได้ง่าย โดยไม่ต้องใช้ เลขที่บัญชี และรหัส pin อีกต่อไป







7. ให้ใส่ที่อยู่ โทรศัพท์ลงไป 







8. อ่อ เลือกผู้ให้บริการมือถือของเราด้วย เพราะว่า มันจะมีฟังก์ชั่น การส่งรหัสมาที่มือถือเรา







9. อันนี้แนะนำให้เลือกแบบแรก คือ แบบ OTP คือเมื่อเราจะใช้ในการจ่ายเงินในอินเตอร์เน็ต มันจะแจ้งรหัสมาให้ทางมือถือของแต่ละครั้ง ทำให้เราไม่ต้องจำรหัส และข้อดีของมันก็คือ รหัส แต่ละครั้งจะไม่ซ้ำกัน เพราะฉะนั้น ก็ไม่ต้องกลัวว่า ใครจะขโมยรหัสเราไป







10. กด ต่อไป







11. มันจะมาหน้าแสดงรายละเอียดการใช้จ่ายเงิน ไม่ว่า จะเป็นเงินเข้าหรือเงินออก เปรียบเสมือนกับเราไปอัพเดทบุ๊คเลย







12. จากนั้นให้เราไปที่เมนู k-web shopping card เลือกไปที่ สมัครใช้บริการ ทางด้านขวาให้เราเลือกว่าเราจะผูกไว้กับบัญชีใด และตั้งวงเงินไว้ที่เท่าไหร่ 







13. คลิ๊ก ยอมรับ







14. ถ้าหากก่อนหน้านี้ ใครเลือกแบบ PIN 2 ก็จะเจอหน้านี้ ซึ่งให้ใส่ PIN2 ด้วย เพื่อความปลอดภัยอีกขั้นนึง







15. เป็นอันเสร็จสิ้นการทำรายการ e web card 







ต่อไป ก็แค่รอทางธนาคารส่งเมลกลับมาเพื่อให้รายละเอียดของเลขที่บัตร รหัส CVV เพื่อใช้ในการทำธุรกรรมในโลกอินเตอร์เน็ตได้ต่อไป ตอนนี้ยังไม่มีรูป เพราะเพิ่งสมัครเสร็จเมื่อวานเอง กำลังรออยู่เหมือนกัน ถ้าได้แล้วจะเอามาให้ดูกัน ที่ให้เพื่อนๆ สมัครต่างๆนั้น เพราะว่า มันจะมีความสัมพันธ์กัน ขึ้นอยู่กับว่า เราจะใช้วิธีไหนในการหาเงินเท่านั้นเอง (แล้วแต่สไตล์ และการมองเห็นโอกาสของแต่ละคน) 



ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคับ







22/9/51

สมัคร blogger หาเงิน สร้างรายได้

        เมื่อวาน ได้เกริ่นไปแล้วในเรื่องของการสมัครเป็นตัวแทนของ CJ ซึ่งเป็นบริษัทตัวกลางระหว่าง ผู้นำสินค้ามาจำหน่าย กับ ผู้ที่ต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเหล่านั้น โดยที่เราไม่ต้องไปสมัครใว้หลายที่ มาที่นี่ที่เดียว มีหลายหลายสินค้าเลย เพราะถ้าเราไปสมัครไว้หลายที่ เวลาแต่ละที่จะจ่ายเงินให้เรา อย่างน้อยก็ต้องไม่ต่ำกว่า 100 $ ต่อ 1 ที่ สมมุติสมัครไว้ 10 เจ้า ก็ต้อง ทำเงินให้ได้ 1000 $ กว่าจะได้เงินมา แต่ถ้าสมัครที่ CJ ที่เดียวแล้ว เรานำสินค้ามาขาย 10 บริษัท ก็ทำให้ขายได้ เจ้าละ 10 $ เท่านั้น เพื่อให้ได้ 100 $ ก็จะได้เงินมาละ มันง่ายกว่ากันเยอะเลย และถ้าถามว่า เขาจะโกงเรา หรือไม่จ่ายเราหรือไม่ ก็บอกได้เลยว่า ไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะก่อนที่คนจะนำสินค้ามาฝากนั้น จะต้องวางเงินมัดจำกับทาง CJ ก่อน เพื่อเป็นหลักประกันในการจ่ายค่าคอมให้กับตัวแทน ไปดูเรื่อง CJ ก่อนหน้านี้ได้ที่ link นี้ วิธีสมัครใช้งาน CJ



        วิธีการหาเงินกับทาง CJ นั้น ก็มีหลายวิธี แต่วันนี้เราจะเสนอวิธีที่ง่ายที่สุด นั่นก็คือ การเขียน blog นั่นเอง หรือถ้าใครมีเว็บไซด์ เป็นของตนเอง ก็สามารถนำ code มาติดได้เลย แต่วันนี้เราจะเสนอวิธีง่ายๆ โดยที่เราไม่ต้องมีเว็บเป็นของตัวเอง ไม่ต้องไปเช่า host ให้เสียเงิน ไม่ต้องไปจดโดเมนด้วย นั่นคือ การไปสมัคร blogger นั่นเอง 

 

1. ขั้นตอนแรก หากเรามี gmail แล้ว ก็ไปสมัครกับ blogger ได้เลย ให้ข้ามไปที่ข้อ 11 ได้เลย แต่หากยังไม่มี ให้ทำตามนี้ เข้าไปที google.com แล้วไปที่ gmail







2. ไปที่ปุ่ม สมัครเข้าใช้งาน gmail







3. กรอกรายละเอียดต่างๆลงไป และตั้งชื่อที่ไม่ซ้ำกับใคร ให้กดดูที่ปุ่ม ตรวจดูว่ามีหรือไม่ ถ้าไม่มีซ้ำ มันจะขึ้นว่า มีไว้ให้เลือก ซึ่งก็คือ ใช้ชื่อนี้ได้







4. ในส่วนของ อีเมลสำรอง ไม่ต้องใส่







5. เมื่อกรอกเรียบร้อยแล้ว ให้กด ยอมรับ







6. เป็นอันเสร็จสิ้นการสร้าง gmail







7. ให้ไปที่ บัญชีของฉันได้เลย







8. อันนี้จะเข้ามาสู่หน้า อีเมล ของเรา







9. วันหลัง ถ้าเราจะเข้าอีเมลของเรา ให้เราพิมพ์ที่ url ว่า http://www.mail.google.com ได้เลย







10. จากนั้น ให้เราพิมเข้าไปที่ google.com แล้วไปที่ บัญชีของฉัน







11. จากนั้นไปที่ เพิ่มเติม เนื่องจาก blogger มันไม่มี







12. ให้เลือก blogger







13. จะเข้ามาที่หน้า blogger เลือก create your blog now







14. ใส่ชื่อแสดงตัวของเรา จะเป็นชื่ออะไรก็ได้







15. อันนี้ให้ใส่ชื่อที่เราคิดว่า ไม่ซ้ำกับใคร เสร็จแล้ว ไป continue







16. จากนั้น เลือก template ที่ต้องการ ซึ่งมีให้เลือกไว้หลายหลาย







17. เมื่อเลือกได้แล้ว ก็เลื่อนมาด้านล่างแล้วไป continue







18. เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ให้ไปที่ start blogging ได้เลย







19. จากนั้นจะขึ้นหน้าที่ให้เราได้เขียนบล็อค ซึ่งมันก็จะเหมือนกับ microsoft word เลย เขียนไม่ยาก







20. ด้านล่างจะมี 2 ปุ่ม คือปุ่ม publish post กับ ปุ่ม save now ซึ่ง publish post นั่นคือ เราเขียนเสร็จแล้ว จะทำการโพสให้กับทุกคนได้ดู ก็เลือกปุ่มนี้เลย หากเรายังไม่พร้อม ก็ให้เลือกปุ่ม save now ก่อน ถ้าวันหลังเขียนเสร็จค่อย publish 







21. เมื่อกด publish post แล้ว จะมาหน้านี้ ซึ่งเราสามารถไปดูด้านหน้าได้เลย ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร











        คราวนี้เราก็จะได้ blog ของเราแล้ว ต่อไปจะเป็นเรื่องของการตบแต่ง เพื่อให้สามารถติดโฆษณาต่างๆได้ ซึ่งจะบอกในตอนต่อไป ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคับ เจอกันตอนหน้า

21/9/51

การสมัครใช้งาน CJ.com

ตั้งแต่เปิดเว็บไซด์ pikpod.com มาตั้งแต่วันที่ 12/3/2551 คนก็มาใช้บริการมากพอสมควร แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะหารายได้จากค่าโฆษณาได้ เพราะด้วยพิษเศรฐกิจที่ซบเซา ทำให้หลายบริษัทต้องประคับประคองตัว หั่นลดค่าโฆษณาลงอย่างมาก ทำให้ผมต้องมาหาวิธีการหารายได้จากทางอื่นบ้าง ไม่่ว่าจะเป็นการเปิดเว็บขายของ เช่น ตุ๊กตาหมีพูร์, minnie, maria ที่เป็นลิขสิทธิ์ของแท้มาขายในราคาถูกมากๆ แต่เว็บยังไม่เสร็จ ต้องรออีกสักพัก รวมถึงการออกแบบเสื้อยืดที่ลายจะต้องเจ๋งมาก และผ้าจะต้องดีแบบเกรดเอเลย ซึ่งกำลังออกแบบอยู่ ถ้าเสร็จแล้วจะเปิดให้จองกัน ขอบอกว่า มีจำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลย ใส่ไปไม่อายใคร ไม่ซ้ำใคร เพราะเป็นรุ่น Limited Edition มีแค่ไม่กี่ตัวในโลก (ไม่ใช่แค่ในไทย ในโลกเลย)

ก่อนที่จะถึงเวลานั้น เรามาดูวิธีการหาเงินอย่างอื่นกัน ไม่รู้ว่า จะทำสำเร็จหรือไม่ แต่ก็เห็นหลายคนทำแล้วก็ได้เงินกันนะ เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่เริ่มทำ ก็จะไม่รู้ว่า มันทำเงินให้เราได้อย่างไร เอาเป็นว่า ถ้าเพื่อนคนไหนสนใจ เรามาเริ่มทำด้วยกัน เผื่อใครจะมีทริคอะไร มาบอกกันบ้่างนะคับ

เริ่มจากการ affiliate program ซึ่งเป็นเรื่องที่คนไทย ส่วนใหญ่จะไม่รู้จัก แต่จะรู้จักในเรื่องของ MLM แทน ซึ่งหลักการนั้นก็จะคล้ายๆกัน เพียงแต่ว่า ถ้าเป็นเรื่อง การสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย หรือ affiliate program นั้น จะดูดีกว่า MLM เพราะ MLM นั้นจะเน้นที่การขาย การยัดเยียด การมีห่วงโซ่ ต่อกันเป็นทอดๆ เหมือนมีสายงานของตัวเอง แต่ affiliate program นั้นคือการสมัครเป็นตัวแทนขายสินค้าให้กับ บริษัทต่างๆ หากขายได้ ก็จะได้ค่าคอมมิสชั่น โดยที่เราไม่ต้องไปเร่ขายสินค้าอะไรเองเลย เพียงแค่เรามี blog หรือ website หรือไม่มี เราก็ขายสินค้าได้ ขึ้นอยู่กับวิธีการของแต่ละคน ซึ่ง หากว่า เราไปติดต่อเป็นตัวแทนของสินค้าแต่ละแห่ง มันก็จะทำให้เสียเวลาไปหาบริษัทหลายบริษัท มันจะดูวุ่นวาย ทำให้เกิดบริษัทตัวกลาง ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ระหว่าง บริษัทผู้ขายสินค้า กับ ผู้สมัครที่ต้องการจำหน่ายสินค้าให้ โดยมีระบบการจัดเก็บข้อมูล การเรียกเก็บและจ่ายผลตอบแทน หรือ ค่า commission คือถ้ามองใน 2 แง่ สำหรับผู้ที่มีสินค้าเป็นของตนเอง และต้องการจำหน่ายสินค้าไปทั่วโลก ก็อาจติดต่อกับทางนี้ก็ได้ แต่วันนี้เราจะมาสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายกัน

บริษัทที่ว่านี้ คือ CJ หรือ Commission Junction www.cj.com ซึ่งวันนี้เราจะพูดถึงการสมัครเป็นสมาชิกก่อน แล้วค่อยต่อกันเรื่องการหารายได้ต่อไป

1. เข้าไปที่ www.cj.com



2. ไปที่ publishers



3. เลื่อนลงล่างสุด ไปที่ apply for a commission junction publisher account



4. เลือกภาษา ประเทศที่เราอยู่ ซึ่งก็คือ thailand ส่วนค่าเงินเลือกเป็น us ดอลล่าห์



5. ให้ดูข้อความในกรอบ ให้กดที่ accept เพื่อเป็นการยอมรับ ช่องที่ให้ติ๊ก จึงจะแสดงขึ้นมา



ุ6. ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกให้หมดทุกช่อง



7. ให้ติ๊กไปที่ no เพราะเราไม่มีเรื่องของการบริจาค



8. ให้ใส่ในช่องแรก เป็นชื่ออะไรก็ได้ ส่วนช่องอื่นไม่จำเป็นต้องใส่อะไรเลย ตามรูป ส่วน category ให้ระบุว่า เป็นแนวไหนที่เราถนัด จากนั้นก็ติ๊กที่ web site และ search engine marketing



9. ใ้ห้ระบุชื่อที่อยู่ ที่เป็นชื่อที่อยู่จริง เพื่อที่ว่า หากมีรายได้ เขาจะได้ส่งมาให้ด้วย check หากชื่อไม่ตรง เดี๋ยวจะขึ้นเช็คไม่ได้ หรืออย่างตอนนี้เขาให้มีการโอนเข้าธนาคารโดยตรง แต่มีแค่ธนาคารเดียว ซึ่งก็คือ ธนาคารกรุงเทพ สาขา สีลม เท่านั้น (วิธีโอนเงิน ดีที่สุด คือการโอนเข้าบัญชีเลย ซึ่ง ให้เราไปเปิดบัญชี กับ ธนาคาร กรุงเทพ สาขา สีลม ที่เดียวเท่านั้น) และใส่อีเมลที่เราไว้รับข่าวสารเกี่ยวกับการหาเงินนี้



10. ให้เราระบุชื่อบริษัท หากไม่มี ให้ใส่ชื่อเราแทน ส่วนเรื่องโทรศัพท์นั้น ให้เราใส่ 66 ตามด้วยเบอร์โทรของเรา เช่น เบอร์บ้าน 02 เป็น 662 แต่ถ้าเป็นเบอร์มือถือ 084 เป็น 6684 ส่วนเรื่อง tax id หรือช่องที่ให้กรอกเรื่องเกียวกับภาษีนั้น ให้เว้นว่างไว้ ไม่ต้องกรอก



11. อันนี้จะมีให้เราเลือกว่า เราจะรับเป็น check หรือ โอนเงินเข้าบัญชีโดยตรง ซึ่งได้อธิบายไปแล้วด้านบน ว่าใช้ได้แค่ ธนาคารเดียว คือ ธนาคาร กรุงเทพ สาขา สีลม ถ้ามีแล้ว เลือก direct deposit เลย จากนั้น ก็กรอก ค่าเงินเป็น us ดอลล่าห์ ชื่อ bank เป็น bangkok bank ใส่ชื่อบัญชี เลือกไปที่ saving คือออมทรัพย์ ใส่เลขที่บัญชีของเรา จากนั้นใส่เลข 026008691 ในช่อง routing number/sort code ซึ่งเห็นเขาบอกว่า มันเป็นเลขของธนาคาร และก็ใส่รหัสตามที่เราเห็น (ดูตัวพิมพ์ใหญ่เล็กด้วย)



12. เท่านี้ก็สมัครได้ละ



13. จากนั้นก็ไปเช็คเมลที่เราใช้สมัครไว้ จะมีจดหมายส่งมาให้เรา พร้อมด้วย account identification number กับ username และ password ที่ไว้ใช้ในการ login เข้าเว็บ cj เพื่อทำการเลือกสินค้าที่เรามีความชำนาญในการขาย





วันนี้เราก็พอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้เราก็มาดูในส่วนอื่นกันต่อไป ดูว่าเราจะนำมาทำอย่างไร เพื่อให้ได้เงินมา ขอบคุณที่สละเวลาอ่านนะคับ